น้อง ๆ เยาวชนที่รัก บรรยากาศของงาน วันเยาวชนโลกที่คราคูฟ ณ ประเทศโปแลนด์ ยังคงมีกลิ่นอายของความชื่นชมยินดีที่เราได้พบปะกับเพื่อนๆ   เยาวชนของเราทั่วโลก และเป็นพิเศษที่เราได้พบกับ  สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส บิดาที่รักยิ่งของพวกเราเสียงเยาวชนฉบับนี้ พี่จะขอแบ่งปันความรู้สึก และสิ่งที่เพื่อน ๆ เยาวชนของเราได้รับช่วงที่พวกเขาสัมผัสชีวิต (Day in Diocese) ที่เมืองคนุรูฟ และช่วงที่ร่วมในงานวันเยาวชนโลกที่เมืองคราคูฟ โดยได้พักอยู่กับครอบครัวที่เมืองชาร์นูฟ

           ส่วนหนึ่งของประสบการณ์และความรู้สึกของเพื่อนเยาวชนของเราในช่วงสัมผัสชีวิต (Day in Diocese) ที่เมืองคนุรูฟ “เราได้เดินชมรอบๆ เมือง พบปะผู้คนที่นี่ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ภาษาเป็นหนึ่งปัญหาสำ คัญของวันนี้ เพราะเขาไม่สามารถ พูดภาษาอังกฤษได้ ทำ ให้การสื่อสารเป็นไปได้ลำบากมากขึ้น ชีวิตของเราแต่ละคนอาจจะต่างกัน ไม่ว่าเรา จะพูดภาษาอะไร ทำ งานอะไร อายุเท่าไร เป็นความแตกต่างทางด้านกายภาพเท่านั้น แต่เมื่อเรามาอยู่ร่วมกัน ในบ้านของพระ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นลูกของพระเหมือนกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน เราจึงมองข้ามความแตกต่างทั้งหมด และพยายามเป็นหนึ่งเดียวกัน ...ดังคำ กล่าวที่ว่า “เป็นหนึ่งเดียวกันในความแตกต่าง” Unity in Diversity...เราได้พบกับคนจากหลากหลายประเทศทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จัก แต่เราเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะเรามี ความรัก และความเชื่อต่อพระเป็นเจ้าเหมือนกัน เราเห็นถึงมิตรภาพและจิตใจของคน ที่อาจแตกต่างกัน จากภายนอก แต่ภายในมีพื้นที่สำ หรับพระเป็นเจ้าเสมอ เราได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนใหม่ที่คนุรูฟ เพื่อนใหม่จาก ประเทศอื่นๆ และใช้เวลากับครอบครัวของเรา การที่เราได้มาอยู่ที่นี่ แม้เป็นเวลาที่ไม่นาน แต่เรารู้สึกผูกพันกับผู้คนที่นี่อย่างมาก อาจจะเพราะเขาต้อนรับและดูแล พวกเราด้วยหัวใจจริงๆ ซึ่งเราสัมผัสได้ด้วยหัวใจเช่นกัน”

          และส่วนหนึ่งของประสบการณ์ ความรู้สึกของเพื่อนเยาวชนในช่วงที่ร่วมในงานวันเยาวชนโลกที่เมืองคราคูฟ โดยได้พักอยู่กับครอบครัวที่เมืองชาร์นูฟ “หลังจากนั้น กลุ่มของเราเดินทางต่อไปยัง Blonia Park ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งจัดพิธีเปิดงานในครั้งนี้ ระหว่างทางที่เราเดินไป ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ยิ่งทำ ให้พวกเราเหนื่อยล้ามากขึ้น ชุดและรองเท้าของพวกเราเปียกปอนแต่พวกเราก็ยังคงเดินหน้าต่อไป และช่วยดูแลกันและกันอย่างดี...ระหว่างเดินออกเพื่อไปขึ้นรถไฟกลับบ้านเราได้สร้างความสนุกสนาน ด้วยเครื่องดนตรีไทยที่เราขนมา ร้องรำ ทำ เพลง และแท็คมือกับเพื่อนๆ ประเทศอื่น ทำ ให้การเดินระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เต็มไปด้วยความสนุกสนานเราขึ้นรถไฟไปเมืองที่เราพัก ประมาณ เที่ยงคืน ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน...การเดินทาง ในแต่ละวันมีความยากลำ บาก มีอุปสรรค มีปัญหามากมาย ซึ่งก็ทำ ให้เราทุกคนได้แสดง

ศักยภาพของตนเองในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการไปรับอาหารมาให้กับเพื่อนร่วมทีม การพยาบาลดูแลกัน การนำ ทางต่างๆ และการให้กำลังใจซึ่งกันและกันในเวลาที่เหนื่อยล้าและหมดพลัง กำลังใจของกันและกันเป็นสิ่งที่สำ คัญจริงๆเราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้เลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เรารู้ว่า พระเจ้าสถิตอยู่กับเราเสมอ พระองค์ทรงวางแนวทางไว้ให้เราอยู่ก่อนแล้วเหลือเพียงเราจะหยุดและฟังเสียงที่พระองค์ทรงบอกกับพวกเราหรือไม่ การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่ประทับใจมาก เพราะครบทุกอารมณ์ในแต่ละวัน เราไม่รู้เลยว่าในวันต่อๆ ไปเราจะเจอกับอะไร เหตุการณ์จะเป็นไปด้วยดี หรือจะพบกับอุปสรรคอะไรบ้าง แต่พระเป็นเจ้าทรงรู้และวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว พวกเรารู้สึกใจหาย ที่การเดินทางกำลังจะสิ้นสุดลง เวลา 18 วันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่เราก็ได้ใช้แต่ละวันอย่างมีคุณค่า และมีความหมาย มีการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และน่าประทับใจ ได้ใช้เวลาร่วมกับคุณพ่อ ซิสเตอร์และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ร่วมทางทุกคน การเดินทางครั้งนี้
จะเป็นประสบการณ์ที่จะประทับอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคนไม่รู้ลืม” และท้ายที่สุดนี้ พี่ขอนำสิ่งที่พระสันตะปาปา ได้พูดกับเราเยาวชนในโอกาสวันเยาวชนโลกนี้ มา แบ่งปันกับน้อง ๆ พระองค์ทรงตั้งคำ ถาม ให้ข้อคิด เตือนใจ เชิญชวน ท้าทาย ต่อพวกเราเยาวชนโดยตรง

           ซึ่งพี่ขอนำ มาแบ่งปันเพียงบางส่วนเท่านั้นนะครับ “เยาวชนต้องแสวงหาการเติมเต็มให้ชีวิต การ เติมเต็มนี้ไม่ใช่การแสวงหาวัตถุสิ่งของ แต่ต้องเป็นการแสวงหาตัวบุคคลซึ่งก็คือพระเยซูคริสต์ พระองค์สามารถมอบความหมายแท้จริงในชีวิตให้กับเรา พระองค์สามารถทำ ให้เราก้าวไปข้างหน้า มองให้สูงและกล้าที่จะฝันถึงแต่สิ่งดี”“พวกลูกต้องการชีวิตที่ดีพร้อมไหม ลูกเริ่มต้นสร้างมันได้ด้วยการเปิดตัวเอง เพราะความสุขจะได้รับ

          การหว่านเมล็ดพันธุ์และจะผลิดอกออกผลเป็นความเมตตา นี่คือคำ ตอบที่พ่ออยากบอกกับลูกทุกคน”“มีคนอดอยาก คนที่ลี้ภัยจากสงคราม และคนที่ป่วยอย่างทรมาน แล้วพระเจ้าอยู่ที่ไหนกัน คำตอบคือ พระเจ้าอยู่ในคนเหล่านี้ พระองค์ทรงร่วมทุกข์ไปกับเขา” แต่สิ่งสำ คัญคือเราดูแลและปฏิบัติต่อคนเหล่านี้อย่างดีหรือเปล่า เพราะวันสุดท้าย เราจะถูกตัดสิน ดังที่พระเจ้าสอนว่า “ทุกสิ่งที่ท่านทำ ต่อพี่น้องผู้ต้อยต่ำ ท่านก็ทำ ต่อตัวเราเอง” ทรงย้ำ “เยาวชนต้องอย่าดำเนินชีวิตแบบครึ่งๆ กลางๆ ต้องกล้ารับใช้เพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก”“พระเจ้าต้องการบางสิ่งจากตัวลูก พระเจ้าทรงหวังในตัวลูก พระเจ้าทรงทำลายกำแพงขวางระหว่างเราพระองค์มาเพื่อเปิดประตูชีวิตของเรา พระเจ้าต้องการให้มือของเราเป็นเครื่องมือของการคืนดีกัน และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน พระองค์ต้องการให้มือของเราสร้างโลกให้ดียิ่งขึ้น”“จงอย่ายอมแพ้ในการเผชิญหน้ากับความคิดที่ปิดตาย แต่จงแสวงหาจุดหมายที่ดำ รงไว้ซึ่งหัวใจอันบริสุทธิ์ สู้อย่างสันติเพื่อความซื่อสัตย์และยุติธรรม จงอย่าทำ อะไรแค่ผิวเผิน อย่าวางใจจิตตารมณ์ทางโลกซึ่งเน้นแค่รูปร่างหน้าตา มันคือเครื่องสำ อางที่ทำ ให้เราดูดี แค่ภายนอก แต่จงดาวน์โหลดลิงค์ที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือหัวใจที่มองเห็นและถ่ายทอดคุณความดีโดยไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ ในการเสวนาและแช็ทในแต่ละวัน จงให้พระวรสารเป็นเข็มทิศนำ ทางการพูดคุย”“ความทรงจำ ของพระเจ้าไม่มี ‘ฮาร์ดดิสก์’ ไว้บันทึกและเก็บข้อมูลของเรา แต่หัวใจของพระเจ้าเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาที่แสนจะอ่อนโยน

          ดังนั้น ขอให้เราพยายามดำ เนินชีวิตเลียนแบบความทรงจำ ที่ศรัทธาของพระเจ้าและรักษาสิ่งดีๆ ที่เราได้รับตลอดหลายวันที่ผ่านมาในงานเยาวชนโลกไว้ด้วย”
 แม้ว่า งานเยาวชนโลกอย่างเป็นทางการจะจบลงการแบ่งปันผ่านสื่อต่าง ๆ ยังมีให้อ่าน ให้ชมกันอีกเรื่อยๆแล้วก็จบไป แต่สิ่งหนึ่งที่พี่เชื่อมั่นว่า น้อง ๆ เยาวชนทุกคนที่ไปร่วมงาน จะยังคงทำ หน้าที่เป็นผู้นำ ความหวังและสารแห่งความเมตตาเหล่านี้ ไปมอบให้กับสังคม ต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด WYD ของเรากำลังเริ่มต้นในบ้าน ของเรา ในกลุ่มเพื่อน ในสังคม ในที่ทำ งาน และในประเทศไทย ที่เรากลับมาเพื่อดำ เนินชีวิตกันต่อไป...“ผู้มีใจเมตตาย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา”(มธ 5:7)

          พี่ขอขอบคุณ น้อง ๆ เยาวชนจากกลุ่มReporter WYD 2016 ซึ่งเป็นผู้เขียนแบ่งปันประสบการณ์แบบวันต่อวันให้กับพวกเราอีกครั้งนะครับแล้วเราจะเจอกันอีกครั้งในวันเยาวชนโลกปี 2019 ที่ประเทศปานามา แล้วพบกันใหม่ ในเสียงเยาวชน ฉบับหน้า สวัสดีครับ